ในทุกสมรภูมิ ทหารคือผู้ที่ยืนหยัดอยู่แนวหน้าเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน ต้องเผชิญกับความเสี่ยงถึงชีวิตภายใต้หน้าที่อันยิ่งใหญ่ ซึ่งกองทัพไทยมีระบบสวัสดิการและมาตรการดูแลเพื่อชดเชยความเสียสละเหล่านี้ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า หากทหารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ครอบครัวจะได้รับสิทธิประโยชน์ใดบ้าง
บทความนี้สรุปรายละเอียดสิทธิประโยชน์ที่ทหารและครอบครัวจะได้รับ โดยแสดงตัวเลขเป็นค่าเฉลี่ยเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
กรณีเสียชีวิตจากการรบ
- เงินช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหม: ประมาณ 500,000 – 600,000 บาท
- เงินฌาปนกิจศพ: ราว 20,000 – 40,000 บาท และหากผู้เสียชีวิตเป็นสมาชิกสหกรณ์อาจได้รับเพิ่มเติมอีก 100,000 – 300,000 บาท
- เงินจากกองทุนทายาท: เช่น กองทุนวีรชนชายแดนใต้ ประมาณ 100,000 – 300,000 บาท
- เงินประกันชีวิต (หากมีการทำไว้): 500,000 – 1,000,000 บาท
- เงินบำเหน็จตกทอด: เฉลี่ย 200,000 – 500,000 บาท
- บำนาญครอบครัว: คู่สมรสหรือบุตรได้รับรายเดือน 3,000 – 8,000 บาท
กรณีบาดเจ็บสาหัสหรือพิการ
- ค่ารักษาพยาบาล: เข้ารับการรักษาฟรีตลอดชีวิตในโรงพยาบาลของกองทัพ
- เงินชดเชยพิการ: 300,000 – 600,000 บาท
- เบี้ยเลี้ยงพักฟื้น: รายวัน 200 – 500 บาท
- สิทธิเลื่อนยศพิเศษ: อาทิ เลื่อนจากนายสิบเป็นนายดาบ หรือนายทหารสัญญาบัตร
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเหรียญกล้าหาญ: แม้ไม่มีมูลค่าเป็นตัวเงิน แต่สะท้อนเกียรติยศและส่งผลต่อเบี้ยหวัด
สิทธิของครอบครัว
- ทุนการศึกษาบุตร: ปีละ 5,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา
- สิทธิเข้ารับราชการแทน: คู่สมรสหรือบุตรสามารถสมัครเข้ารับราชการได้
- ที่อยู่อาศัยชั่วคราว: มีสิทธิพักในบ้านพักราชการหรือโครงการบ้านมั่นคง
หมายเหตุ
ตัวเลขทั้งหมดเป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับยศ อายุราชการ และเงื่อนไขของภารกิจ หากเป็นปฏิบัติการที่มีความสำคัญสูงหรือมีความเสี่ยงมาก อาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมกว่าปกติ
บทสรุป
แม้กองทัพจะจัดเตรียมมาตรการดูแลและชดเชยความเสียสละไว้หลายด้าน แต่ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนชีวิตของทหารผู้กล้าได้อย่างแท้จริง สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความกล้าหาญและการเสียสละของทหารไทยจะไม่สูญเปล่า และครอบครัวของพวกเขาจะไม่ถูกทอดทิ้งในวันที่ขาดเสาหลักไปตลอดกาล




