มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี โดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เดินหน้าสนับสนุนการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดาร ส่งมอบอุปกรณ์การเรียนและสิ่งของจำเป็นให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 5 แห่ง ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างโอกาสทางการเรียนรู้และเสริมศักยภาพให้เยาวชนไทยที่ขาดแคลนสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการศึกษาอย่างเพียงพอ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตของเด็กและเยาวชน
ส่งเสริมการศึกษาเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
คุณดอล บุญมั่น ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า “เราดำเนินธุรกิจบนแนวคิดที่ต้องเติบโตไปพร้อมกับสังคมมาโดยตลอด และเชื่อมั่นว่า ‘คน’ คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด ขณะที่การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน การลงทุนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนจึงถือเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศในระยะยาว การมอบโอกาสที่เท่าเทียมให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลคือการลงทุนเพื่ออนาคต เราต้องการให้พวกเขาได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตนเอง ครอบครัว และชุมชนของพวกเขา”
เสียงจากครูผู้สอนสะท้อนความจำเป็นเร่งด่วน
ด้าน ส.ต.ท.สัชฌุกร สถิรพิบูลวงค์ ตัวแทนครูจาก โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 112 เผยว่า “โรงเรียนของเรามีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล 3 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 143 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กจากกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น อาข่า และลาหู่ โดยโรงเรียนตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายกว่า 90 กิโลเมตร ทำให้การเข้าถึงทรัพยากรเป็นไปได้ยากและขาดสื่อการสอนที่ทันสมัย การสนับสนุนครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ที่จะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ห้องพยาบาลและโรงครัวที่จะช่วยดูแลสุขอนามัยและโภชนาการได้อย่างครบถ้วน สิ่งของทุกชิ้นที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเรียนทุกคน”
มอบสิ่งของมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทแก่ 5 โรงเรียน ตชด.
มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี โดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มอบสิ่งของมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 5 แห่ง ใน จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสมให้แก่นักเรียนกว่า 709 คน และครู 64 คน โดยสิ่งของที่มอบประกอบด้วย 5 หมวดหลัก รวม 31 รายการ อาทิ
- อุปกรณ์การเรียนการสอนและสำนักงาน เช่น ชุดโต๊ะเก้าอี้นักเรียนและครู โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องปรินเตอร์ ตู้เหล็กใส่เอกสาร ชุดเครื่องเสียง และกระดานไวท์บอร์ด
- อุปกรณ์โรงอาหาร เช่น ตู้เย็น ตู้กับข้าว ถาดหลุมใส่อาหาร แก้วน้ำสแตนเลส และชุดถังแก๊สพร้อมหัวเตา
- อุปกรณ์ที่อยู่อาศัยของนักเรียน เช่น ที่นอนสำหรับเด็กอนุบาล และเสื่อโฟมกันกระแทก
- อุปกรณ์งานช่างและเกษตร เช่น เครื่องตัดหญ้า จอบ เสียม และตู้เชื่อม
- อุปกรณ์ด้านสุขอนามัย เช่น อุปกรณ์ตัดผมนักเรียนและเตียงผู้ป่วยสำหรับห้องพยาบาล
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม เสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน.
